แมนยู แพ้ทาง วูล์ฟแฮมป์ตัน อาจจะเป็นเรื่องจริง ? เมื่อเกมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงเล่นเกมลีกนัดที่ 2 ของฤดูกาลเป็นทีมสุดท้าย บุกไปเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน ในศึก มันเดย์ไนท์ ฟุตบอล ผลปรากฏว่าทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังคงทำสถิติไม่ชนะทัพ “หมาป่า” ที่นำโดย นูโน่ ซานโต้ ต่อไป ทำไปทำมา จะเหมือนกลายเป็นของแสลงไปหรือเปล่าก็ไม่รู้

เพราะอย่างในเกมล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เปิดหัวได้สวย ถล่ม เชลซี มาได้ 4-0 แต่พอมาเยือน วูล์ฟ พวกเขาก็เก็บไปได้แค่ 1 แต้ม จากการเสมอ 1-1 แม้ว่าจะดูเหมือนรูปเกมของ “ปีศาจแดง” จะดีกว่าในครึ่งเวลาแรก แต่พอมาในครึ่งหลัง ก็ต้องยอมรับกันตามตรงว่าเป็นรอง และการแก้เกมของทาง “หมาป่า” ก็ดีกว่าเห็นๆ แถมเกือบที่จะได้เฮอยู่แล้ว

ปอล ป็อกบา ก็ดันมายิงจุดโทษไม่เข้าซะอย่างงั้น

แมนยูล่าสุด เกมที่ โมลินิวซ์ ผู้มาเยือนจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม กองหลังมีทั้ง อารอน วาน-บิสซาก้า, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และ ลุค ชอว์ ชุดเดียวกับเกมที่แล้ว ขณะที่กองกลางก็ยังคงเป็น สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ ป็อกบา สามแนวรุกก็เป็น เจสซี่ ลินการ์ด, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ แดเนี่ยล เจมส์ ที่ได้ลงตัวจริงเป็นครั้งแรก หน้าเป้าก็เป็น อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

ขณะที่เจ้าบ้าน ไม่มีการส่งนักเตะตัวใหม่เลย และใช้ชุดผู้เล่นเดิมลงสนามทั้งหมด ครึ่งแรก รูปเกมของ วูล์ฟ เปลี่ยนไปเล็กน้อย เนื่องจากพวกเขาเล่นกันแบบกลัวผู้มาเยือนสุดๆ บีบพื้นที่ตรงกลาง นักเตะแต่ละคน ยืนตำแหน่งกันค่อนข้างแน่น และถอยกรูกันไปแพ็คในกรอบเขตโทษ ซึ่งกลายเป็นว่า มันทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ครองบอลเยอะ

พอพวกเขาได้เล่นบอล ก็ดันไปรีบร้อย และเสียง่าย มันก็ทำให้ “ปีศาจแดง” กลับมาครองเกมอีกครั้งได้อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะได้ครองบอล แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีโอกาสยิงมากนัก แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้แค่จ่ายบอลกันไปมา โดยไม่มีไอเดียอะไรเด็ดๆ สักเท่าไหร่

ประตูขึ้นนำจาก อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-0

ครึ่งหลัง วูล์ฟ เปลี่ยนเอา แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ ออกแล้วส่ง อาดาม่า ตราโอเร่ ลงมาเลื้อยริมเส้น นั่นยังไม่เท่ากับการเปลี่ยนแท็กติกของ วูล์ฟ ซึ่งพวกเขากลับมาเล่นบอลเคี่ยวๆ เหมือนเดิม ขยายพื้นที่ของนักเตะ ยืนให้กว้างกันมากขึ้น พร้อมกับรอจังหวะสวยๆ เพื่อเข้าเพรสซิ่ง และมันก็เป็นไปตามที่คาด แมนฯ ยูไนเต็ด มีทีมเวิร์ค และทักษาการจ่ายบอลที่ไม่ดีพอ

ทำให้ช่วงต้นครึ่งหลังเจ้าบ้านได้ครองเกมมากขึ้น จนนำมาซึ่งประตูตีเสมอ ลูกตีเสมอ แม้จะไม่ได้มาจากการเล่นเกมต่อบอลกันของพวกเขา แต่ก็เป็นทีเด็ดจากลูกเตะมุม เล่นสั้นกันก่อนจะจ่ายเรียดเข้ากลางมาให้กับ รูเบ็น เนเวส ที่แม้จะไม่ได้ยิงในจังหวะแรก แต่ก็สามารถปั่นบอลเสียบคานเป็นประตูได้อย่างสวยงาม

หลังจากนั้น ทีมของ น้าโอเล่ พยายามที่จะเดินเกมรุก ค่อยๆ ตั้งสติหาทางแก้ จนสุดท้ายก็มาได้จุดโทษ ล่าสุด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ออกมาพูดแล้วนะครับ ว่า แมนยูคลับ ไม่ได้มีการวางหรือกำหนดเอาไว้แบบตายตัว เป็นการตกลงกันเองว่าจะเป็น แรชฟอร์ด หรือ ป็อกบา

มีสองมุมที่คิดได้คือ โซลชา พูดแบบนั้นจริงๆ กับอีกมุมหนึ่งก็คือเขาได้วางตัวยิงจุดโทษเบอร์หนึ่งไว้แล้ว แต่ออกมาพูดปกป้องนักเตะ ถ้าใครยังจำกันได้ เกมที่พบกับ เชลซี จังหวะก่อนที่ แรชฟอร์ด จะยิงจุดโทษ ป็อกบา เดินมาขอยิงแล้วหนึ่งครั้ง ซึ่งผลปรากฏว่าในเกมนั้น หัวหอกทีมชาติอังกฤษ เลือกขอยิงเอง

ซึ่งปอกบาตกเป็นประเด็นปัญหาในทีมเรื่อยมา แต่พอมาในเกมนี้ จากที่เจ้าตัวเป็นคนที่ทำให้ทีมได้จุดโทษ ก็มีสิทธิ์มีเสียงที่จะทำให้เขาขอยิงได้ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่เขายิงไม่เข้า สุดท้ายทั้งสองทีมก็แบ่งกันไปฝั่งละแต้ม เอาจริงๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าพอใจ

เพราะทาง “ปีศาจแดง” การบุกมาได้แต้มเดียว กับทีมที่แข็งแกร่งอย่าง วูล์ฟ แถมพวกเขายังแพ้มาตลอด 2 เกมล่าสุด ไม่แพ้กลับไปก็ดีแค่ไหนขณะที่ วูล์ฟ ได้แต้มจากทีมท็อป 6 ของตารางอีกครั้ง ก็ถือว่าทำได้ตามเป้าอย่างที่ นูโน่ ซานโต้ ได้วางเอาไว้

เพียงแต่มันอาจจะน่าเสียดายสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะมีโอกาสคว้าชัยชนะได้แล้ว แต่สุดท้ายกลับพลาดด้วยน้ำมือของตัวเองแถมยังพลาดการขึ้นจ่าฝูงในสัปดาห์ที่ 2 ไปอย่างน่าเสียดาย แต่ถ้าดูกันตามความเป็นจริงแล้ว “ปีศาจแดง” ชุดนี้ ยังมีจุดอ่อนมากมายทั่วสนาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปแบบการเล่นหรือตัวนักเตะ

แมนยู แพ้ทาง วูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งถ้าแก้จุดอ่อนดังกล่าวไม่ได้ แน่นอนว่าการเสมอกับทีมอย่าง วูล์ฟ, เลสเตอร์ ซิตี้, เอฟเวอร์ตัน มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ถ้าแพ้ก็ไม่ได้น่าตกใจอะไร เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้ว เกมที่พวกเขาถล่ม เชลซี ถึง 4-0 มันก็เป็นเพียงจังหวะของเกม ที่ทำให้สกอร์เป็นอย่างนั้น

เพียงแต่พอมันเป็นการถล่มใส่ทีมใหญ่ด้วยกัน มันอาจจะทำให้แฟนบอลสาวก “เร้ด อาร์มี่” หวังมากไปหน่อย กับทุกๆ เกม นัดนี้ก็เช่นกัน จนลืมไปว่า ซีซั่นนี้ ก็ไม่ควรจะหวังอะไรกันมากมายอยู่แล้ว

ติมตาม ข่าวแมนฯยู และทีมอื่นๆก่อนใครได้ที่ www.donbaleh.com