แม้ว่าจะไม่สามารถช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ หลังจากโดนฟอร์มโหดของลิเวอร์พูลวิ่งเข้าป้ายไปตั้งแต่หัววัน แต่ภาพรวมของฟอร์มการเล่นของ เควิน เดอ บรอยน์ ในฤดูกาลนี้ ต้องยกย่องว่า อยู่ในช่วงที่กำลังวิ่งขึ้นสู่จุดสุดยอดทีเดียว และล่าสุด เหมาะสมทุกประการกับการได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีกไปครองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เควิน เดอ บรอยน์ กับการเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก ล่าสุด

เควิน เดอ บรอยน์ เข้าใกล้และเฉียดกับตำแหน่งดังกล่าวมาหลายปี เพราะฟอร์มการเล่นในภาพรวม เขามีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาโดยตลอด และกลายเป็นนักเตะเทพเจ้าแห่งการแอสซิสต์ของวงการฟุตบอลอย่างเต็มตัว โดยในปีนี้ สามารถทำสถิติแอสซิสต์ไปถึง 20 ครั้ง เทียบเท่ากับสถิติสูงสุดตลอดกาลต่อหนึ่งฤดูกาลที่เธียร์รี่ อองรี ตำนานแห่งอาร์เซน่อลเคยทำเอาไว้ พ่วงด้วย การเผด็จศึกเองคนเดียวอีก 13 ประตู ด้วยกัน

จุดเด่นที่ทำให้เควิน เดอ บรอยน์ ซิวตำแหน่งนี้ไปครอง ก็มาจากการสวมบทบาทจอมทัพ ที่เปิดบอลแบบสุดยอด จนมีส่วนสร้างสรรค์เกมรุกให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผลิตสกอร์ไปได้มากถึง 102 ประตู ในฤดูกาลนี้ และแม้ว่า แอสซิสต์ 20 ครั้งที่ทำได้ ส่วนใหญ่แล้ว ได้รับการยกย่องว่า เต็มเปี่ยมไปด้วยจินตนาการที่สวยงาม และเท้าของเขาสามารถบังคับบอลได้ตามที่สมองสั่ง ที่สำคัญ สถิติดังกล่าวน่าจะมากขึ้นกว่านี้อีกด้วยซ้ำ หากว่า บรรดาเพื่อนร่วมทีม ไม่ยิงทิ้งยิงขว้าง จากผลงานที่เขาบรรจงปั้นแต่งให้ยิง

จากการคว้ารางวัลครั้งนี้ ทำให้เควิน เดอ บรอยน์ กลายเป็นนักเตะสัญชาติเบลเยี่ยม คนที่ 3 ที่ขึ้นครองรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ แวงซองต์ กอมปานี อดีตแนวรับคนเก่งเพื่อนร่วมทีม และ เอเดน อาซาร์ เคยรับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ไปครองได้ก่อนแล้ว

การคว้ารางวัลอันทรงเกียรติในปีนี้ เดอ บรอยน์ สามารถเอาชนะ นักเตะชั้นนำหลายคนที่ติดโผเข้ามาท้าชิงกันไม่ว่าจะเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ และ ซาดิโอ มาเน่ สามกำลังหลักแห่งแชมป์พรีเมียร์ลีก, แดนนี่ อิงส์ รองดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกจากเซาแธมป์ตัน, เจมี่ วาร์ดี้ เจ้าของรางวัลรองเท้าทองคำประจำฤดูกาลนี้ และนิค โป๊ป ยอดนายประตูจอมหนึบทีมชาติอังกฤษจากเบิร์นลีย์ ถือว่า เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ที่เขาได้รับรางวัลนี้ไปครอง

ส่วนผลงานที่เขาทำเอาไว้ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ มีส่วนร่วมลงสนาม 35 นัดให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเล่นเป็นตัวจริง 32 นัด สำรอง 3 นัด ซึ่งถือว่า ได้เล่นเป็นตัวหลักและมีอาการบาดเจ็บน้อยกว่าปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในปีที่แล้ว แม้ว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้จะเป็นแชมป์ เก็บได้ถึง 98 คะแนนก็ตาม แต่เขามีส่วนร่วมกับทีมแค่ 19 นัดเท่านั้น ที่เหลือ ต้องพักรักษาตัวเพราะอาการบาดเจ็บ ทำให้ชวดรางวัลไปครอง แม้ว่าตลอดระยะเวลาที่เขาอยู่ในสนาม ผลงานจะดีสม่ำเสมอต่อเนื่องก็ตาม

เป้าหมายต่อไปของเควิน เดอ บรอยน์ คือ การอยู่ร่วมกับทีมเรือใบสีฟ้าแล้วคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกมาครองให้ได้ เพราะยังขาดแค่ถ้วยรางวัลใหญ่ที่สุดในยุโรปใบนี้เท่านั้น ที่เขาไม่เคยสัมผัสและใฝ่ฝันถึง แต่คงต้องไปตั้งต้นกันใหม่ในฤดูกาล 2020-21 เพราะเพิ่งจะโดนทีเด็ดของลียง เขี่ยตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายไปอย่างเหลือเชื่อก็ตาม

ปัจจุบัน เควิน เดอ บรอยน์ อายุ 29 ปี กำลังอยู่ในช่วงท็อปพีคของการเป็นผู้เล่นอาชีพ และยังได้รับการจับตามองจากสุดยอดทีมอย่างเรอัล มาดริด หวังจะดึงตัวไปเสริมทัพด้วยเช่นกัน เพียงแต่ การอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปัจจุบัน เขาคือดาราเบอร์ต้นของทีม และ ทีมตราเรือใบก็ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินทอง ทำให้การคว้าตัวไปเสริมทัพด้วย ทำได้ยากเหลือเกิน

สนใจข่าวเด่นข่าวดังในวงการลูกหนังเพิ่มเติมร่วมถึงการร่วมสนุกกับการทายผลกีฬาที่ได้เงินจริงง่ายๆ เข้ามาได้ที่ sbobet เว็บที่จะทำให้คุณได้สนุกกับการทายผลกีฬาฟุตบอลได้ตลอด 24 ชั่วโมง