ยังเหลืออีก 5 นักเตะพรีเมียร์ลีก ระดับแนวหน้าที่ต้องย้ายทีมด้วยเหตุผลทางด้านความสำเร็จของทีม ซึ่งจุดหมายปลายทางของแต่ละคน ล้วนแล้วแต่คือทีมชั้นนำของประเทศ ก่อนที่นักเตะแต่ละคน จากดาวรุ่งพุ่งแรง กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ให้เห็นก็มีหลายคน ยังเหลือใครบ้าง เข้าเรื่องต่อให้จบกันเลยดีกว่า
5 นักเตะพรีเมียร์ลีก เลือกย้ายทีมหวังประสบความสำเร็จในอาชีพ
โซล แคมป์เบลล์ ( สเปอร์ส ไป อาร์เซน่อล)
นี่คืออีกหนึ่งเหตุการณ์การย้ายทีมแห่งประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เพราะผลกระทบจากการตัดสินใจย้ายทีมของเควิน แคมป์เบลล์ ส่งผลถึงความวุ่นวายของแฟนบอลไก่เดือยทอง ที่ตราหน้าไปยังอดีตนักเตะของทีมว่า เป็นผู้ทรยศอย่างแท้จริง จากการย้ายทีมโดยตรงไปสู่อริเบอร์หนึ่งอย่างอาร์เซน่อล เพราะมีการปฏิเสธการต่อสัญญากับทีม ทำให้ได้ย้ายทีมแบบฟรีๆ
ซึ่งหากเป็นทีมอื่นที่เขาไปสังกัดด้วย คงจะไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ก็อย่างว่า ที่สุดแล้ว การตัดสินใจครั้งนั้นของเขา ทำให้เขาเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอคัพ 2 สมัย และเคยเข้าชิงฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกมาแล้ว
เกล็น ฮ้อดเดิ้ล (สเปอร์ส ไป โมนาโก)
นี่คือหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลอังกฤษคนหนึ่ง ที่ได้รับการยอมรับให้เป็นมิดฟิลด์สุดคลาสสิค และมีลีลาการเล่นที่สวยงามแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพที่สุด เขาคือแฟนบอลตัวยงของสเปอร์สตั้งแต่อายุ 8 ขวบและได้ลงเล่นกับทีมที่ตัวเองรัก แม้ว่าตลอดระยะเวลาการค้าแข้งในชุดสเปอร์ส จะสามารถคว้าแชมป์เอฟเอคัพมาครองได้ 2 ครั้ง และแชมป์ยูฟ่าคัพ 1 ครั้ง
แต่เขายังมองหาความสำเร็จระดับลีกอยู่ ทำให้ ตัดสินใจย้ายทีม แต่เขายังเลือกที่จะย้ายไปค้าแข้งต่างแดนกับโมนาโก มากกว่า ซึ่งเวลานั้น นี่คือทีมชั้นนำของฝรั่งเศส ก่อนที่จะเป็นแชมป์ลีกเอิงได้สำเร็จ ตามเป้าหมายที่ตัวเองต้องการ ก่อนจะหวนคืนสู่การกลับมาคุมทีมเก่าอีกครั้ง ในช่วงท้ายๆ ของการอยู่ในวงการฟุตบอล
ริโอ เฟอร์ดินานด์ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไป ลีดส์ ยูไนเต็ด)
นี่คืออีกหนึ่งผลิตผลที่เวสต์แฮม ยูไนเต็ด สร้างขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจ เขาคือทีมเยาวชนชุดเดียวกับแฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ทีมขุนค้อนบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมาประดับวงการฟุตบอล ก่อนที่เขาจะกลายเป็นผู้เล่นกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลก เมื่อทีมยูงทองทุ่มทุนสร้าง กระชากตัวเขาไปอยู่ในถิ่นเอลแลนด์โร้ด ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ และถูกใช้งานอีก 2 ปี ก่อนที่จะกลายเป็นนักเตะอังกฤษที่ค่าตัวแพงที่สุดไปอีกครั้ง หลังจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กระชากตัวมาอยู่ด้วยราคา 33.3 ล้านปอนด์
ก่อนที่เขาจะกลายเป็นตำนานแห่งแนวรับของทีมปีศาจแดง ที่ถูกพูดถึงจนทุกวันนี้ เรื่องของความสำเร็จที่เขาได้ก็คือ แชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัย, ลีกคัพ 2 สมัย, เอฟเอคัพ 4 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัยและฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกอีก 1 สมัย ส่วนกับลีดส์ ยูไนเต็ด หาความสำเร็จไม่ได้เลยเช่นเดียวกับตอนอยู่เวสต์แฮม
แอชลีย์ โคล (อาร์เซน่อล ไป เชลซี)
นี่คือแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดคนหนึ่งของประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ถูกป้นและสร้างขึ้นโดยอาร์เซน่อล และเป็นยุคแรกของการเป็นฟูลแบ็คสมัยใหม่ ที่สามารถเติมเกมรุกได้อย่างสนุก จนมีส่วนสำคัญกับทีม จนกระทั่งสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกร่วมกับทีมปืนใหญ่ได้ถึง 2 ครั้ง และเอฟเอคัพ 3 ครั้ง แต่การย้ายทีมของเขาสร้างความฮือฮา เมื่อเจ้าตัวเปิดเผยว่า ต้นสังกัดหลอกลวง
เรื่องการเพิ่มค่าเหนื่อยให้กับเขา ก่อนที่อาร์เซน่อลจะเผยว่า การรักษาระดับเพดานเงินเดือน พวกเขาจำเป็นจะต้องยกให้เธียร์รี่ อองรี เป็นเบอร์หนึ่ง หาใช้แอชลีย์ โคล จึงทำให้มาถึงจุดแตกหักที่เขาเลือกไปอยู่กับเชลซี จนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้งที่นั่น แถมยังประดับบารมีตนเองด้วยแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยอีกรายการ
เวย์น รูนีย์ (เอฟเวอร์ตัน ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
นี่คือดาวยิงวันเดอร์คิดส์ ที่เอฟเวอร์ตัน สร้างขึ้นมา และประสบความสำเร็จอย่างมาก จากการได้เล่นเป็นตัวจริงตั้งแต่อายุได้แค่ 16 ปี แถมยังเป็นผู้ยิงประตูดับสถิติไร้พ่ายของอาร์เซน่อลอีกต่างหาก และแม้ว่าเขาจะฉายแววการเป็นยอดนักเตะให้กับทอฟฟี่ได้เป็นอย่างดี แต่ผลงานความตกต่ำของทีม ทำให้เขาต้องย้ายค่ายมาเป็นสมาชิกใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนกลายเป็นตำนานของสโมสรจนทุกวันนี้
ในเรื่องของการยิงประตู ซึ่งปัจจุบัน เขากลายเป็นดาวซัลโวอันดับหนึ่งตลอดกาลของทีมชาติอังกฤษไปอีกหนึ่งตำแหน่ง ส่วนเรื่องแชมป์ เขาเก็บกวาดกับทีมปีศาจแดงมาจนเต็มอิ่ม ด้วยการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, เอฟเอคัพ 1 สมัย, ลีกคัพ 3 สมัย, ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, ยูโรป้าลีก 1 สมัยและฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกอีก 1 สมัย
ติดตามข้อมูลข่าวสารวงการลูกหนังหรือข้อมูลการเดิมพันออนไลน์สามารถเข้ามาดูได้ที่ sbobet